วันอาทิตย์ที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

อินเดีย-11 : วันวัมวันโกล

วันวัมวันโกล

ภาษาอังกฤษแบบแขกน่ารักไปอีกแบบ ฟังบ่อย ๆ ก็จะรู้ว่าเขาพูดอะไร พอชินแล้วก็จะเข้าใจได้เอง แต่ถ้าไปเข้าเรียนใน English School ภาษาอังกฤษนี้จะสำเนียงดีมาก แต่สำหรับคนทั่วไปนั้นโดยมากก็สามารถสนทนาภาษาอังกฤษกับเราได้ แต่ก็ไม่ทุกคนครับ อย่างคนขายร้านของชำข้าง ๆ บ้านพักเขาก็พูดได้ปร๋อเลย วันแรกที่ไปถึงบังกาลอร์ไปเดินหาซื้อน้ำขวดที่ร้านนี้ล่ะ ขวดละ 12 บาท บอกคนขายว่าจะเอา 2 ขวด เขาก็พูดออกมาว่า "วันวัมวันโกล" แค่นั้นแหละ ผมก็ยืนมึนพยายามคิดอยู่ว่าเขากำลังพูดอะไร เพราะเขาชูขวดน้ำขึ้นมาให้เราดู และเอานิ้วชี้ที่ขวดพร้อมกับพูดประโยคนี้ออกมา คำว่า "วัม" กับ "โกล" นี้พูดเสียงสั้น ๆ ก็เลยบอกให้พูดใหม่ เขาก็พูดคำเดิม พอคุยกันไม่รู้เรื่องก็เลยต้องพูดแกมๆ หัวเราะว่า "งั้นโชว์ให้ดูหน่อยซิ" (Ok please show me) ในตอนนั้นคิดว่าประโยคนี้น่าจะเหมาะสมที่สุดแล้วล่ะ เจ้าของร้านที่ผมไปซื้อเป็นประจำคนนี้ยังหนุ่มอยู่เลยครับ มีหนวดเครา หน้าเนียนๆ ตัวท้วมนิดๆ ใส่เสื้อเชิ้ตสีสวยเชียว แกก็ยิ้ม ๆ เดินผ่านหน้าตู้ไอศกรีมเพื่อที่จะไปหยิบอะไรบางอย่างมาให้ผม ฝาตู้ไอศกรีมเจ้ากรรมดันไปจิกชายเสื้อสวย ๆ ของแกนี่ละ เสียงดังแควก!! ขาดเป็นรอยฟันปลาเลย ดูท่าแกเซ็งมาก แต่แกก็ยังเดินไปต่อเพื่อไปหยิบน้ำมาให้ผมอีกขวด แค่นั้นล่ะจึงได้เข้าใจ เขาพูดว่า "วัน-วอม-วัน-โคล-ด" (One warm one cold) คือ อันหนึ่งเอาเย็น ๆ กับอีกอันไม่เย็นนะ แหม ที่นี่บริการดีจริง ๆ แถมเสื้อขาดไปอีกหนึ่งตัว พอจ่ายตังค์ให้ดันจ่ายเกินอีก ตอนนั้นยังมองแบ็งค์ไม่ออก มันดึกแล้วด้วย และแบ๊งค์ 20 กับ 10 รูปีนี่ก็คล้าย ๆ กันอีก จะต้องดูที่ตัวเลข ผมดันจ่ายเกินไป 10 รูปี แกก็เรียกเรากลับมาและส่งตังค์คืนมาให้เรา เอ้อ...แบบนี้คบได้ น่ารัก เป็นลูกค้ากันอีกนานเลย เวลาจะโทรศัพท์กลับเมืองไทยก็จะมาโทรที่นี่ล่ะ สะดวกดี เห็นหน้ากันบ่อย ๆ พอจะกลับก็เลยขอถ่ายรูปด้วยกันบอกว่าจะเอาให้ลงหนังสือแกก็ชอบใจใหญ่